เรื่องต้องรู้ ก่อนบินเดี่ยวหาเงินที่ไต้หวัน

แลกเงิน,ไต้หวัน

หากคุณกำลังมีความคิดอยากไปใช้แรงงานอย่างถูกกฎหมายที่สาธารณรัฐจีนหรือ “ประเทศไต้หวัน”  นอกจากการเตรียมตัวด้านเอกสารที่ถูกต้อง เตรียมร่างกายแล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมทำความรู้จักกับไต้หวันให้มากขึ้นเพื่อให้การไปทำงานที่ไต้หวันของคุณราบรื่นตลอดรอดฝั่ง ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ เรื่องแรกที่คุณควรรู้เมื่ออยากย้ายประเทศมาทำงานที่ไต้หวันนั่นก็คือสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเกาะไต้หวัน ซึ่งภูมิประเทศไต้หวันนั้นมีลักษณะเป็นเกาะทอดยาวจากเหนือสู่ใต้ ตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟและแผ่นดินไหว  สำหรับภูมิอากาศของไต้หวันนั้นสภาพอากาศค่อนแปรปรวนเพราะเป็นเกาะในเขตร้อนแต่แดดไม่จัด ในหนึ่งวันอาจเจอสภาพอากาศที่หลากหลาย อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส ไต้หวันถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกทำให้มีอากาศแบบชื้น ช่วงฤดูใบผลิและหนาวอากาศแปรปรวนมาก อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในช่วง 12-17 องศาเซลเซียส ค่าครองชีพ สำหรับค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแทบจะเรียกได้ว่าเท่าๆ กับค่าเงินไทย  1ดอลลาร์ไต้หวันจะอยู่ที่ราวๆ 1.20 บาท นั่นเอง ส่วนค่าครองชีพก็จะสูงกว่าไทยในหลายๆ อย่าง เช่นอาหารร้านทั่วไปก็จะอยู่ที่ราวๆ 60-70 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่หากเป็นอาหารในร้านสะดวกซื้อก็พอมีที่ราวๆ 30 – 50 ดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนเครื่องอุปโภคบริโภคก็จะแพงกว่าไทยเล็กน้อย แต่หากเป็นพวกรองเท้ากีฬาหรือของใช้บางอย่างก็อาจจะถูกกว่าราคาที่ไทย ส่วนอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วยความที่ไต้หวันมีพื้นที่เล็ก ทำให้ราคาที่ดิน อสังหาริมทรัพย์แพงมากเมือเทียบกับพื้นที่ที่ได้  เวลาเร็วกว่าไทย หากคุณได้ไปใช้ชีวิตทำงานที่ไต้หวันแล้วล่ะก็อย่าลืมเรื่องเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะ ข้อกำหนดเรื่องการทำงาน การทำงานในไต้หวันจะต้องมีสัญญาจ้างจะระบุค่าจ้างไว้ชัดเจน แต่อาจหักค่าที่พักและอาหารในบางกรณี และหากว่ารายได้ถึงเกณฑ์ ก็ต้องมีค่าประกันภัยแรงงาน ประกันสุขภาพและค่าตรวจสุขภาพ ภาษา หากได้เดินทางไปทำงานในไต้หวันแล้วคุณอาจจำเป็นต้องรู้ภาษาจีนกลาง (Mandarin) […]

เรื่องควรรู้เมื่อสาวไทยใช้ชีวิตที่ต่างแดน พกเงินได้กี่บาท

แลกเงินต่างประเทศ

หากคุณแม่บ้านชาวไทยอาศัยอยู่กับสามีชาวต่างชาติที่ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อเมริกาหรือประเทศใดๆ ก็ตาม หากคุณแม่บ้านยังเป็นแค่ผู้ติดตามต้องมีพาสปอร์ตเสมอ จำเป็นต้องศึกษาเรื่องควรรู้เกี่ยวกับพาสปอร์ตไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดปัญหาใดๆ จะรีบหาทางออกได้ถูกต้อง รวมถึงเรื่องเงินต่างประเทศที่จำเป็นต้องทราบเมื่อเดินทางด้วย  เดินทางกลับประเทศไทย หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต Passport) นั้นเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้เพื่อแสดงตัวตนของคุณแม่บ้าน ดังนั้นต้องคอยตรวจสอบไม่ให้หมดอายุ หากหมดอายุควรติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือ สถานกงสุลใหญ่ ในประเทศนั้นๆ เพื่อทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ หากคุณแม่บ้านเกิดทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต Passport) หายในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อกลับประเทศไทย สามารถติดต่อขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ออกหนังสือสำคัญประจำตัว (Certificate of Identity- CI) ได้ เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยต้องนำสำเนาหนังสือเดินทางเล่มที่สูญหายมาพร้อมรูปถ่าย บัตรประชาชน และแบบฟอร์มมายื่นขอเอกสารล่วงหน้าก่อนเดินทาง และเมื่อท่านเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว จะต้องทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ด้วย อยากเปลี่ยนนามสกุลตามสามีต่างชาติต้องทำยังไง คุณแม่บ้านคนไทยที่อยากเปลี่ยนนามสกุลในพาสปอร์ตเพื่อใช้นามสกุลของสามีหลังแต่งงาน ต้องไปดำเนินการด้วยตนเองมที่เขตหรืออำเภอที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หากไม่สามารถไปด้วยตรเอง ต้องออกหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทนได้ พกเงินเข้าออกประเทศไทยได้เท่าไหร่? หากคุณแม่บ้านต้องการนำเงินบาทออกนอกประเทศไทย สามารถพกเงินสดได้สูงสุด 50,000 บาท แต่หากต้องการนำเงินสดมากกว่านั้นออกจากประเทศไทยจำเป็นต้องขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย และ นำหลักฐานการได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธต.5) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศในขณะเดินทางออกนอกประเทศ กรณีที่ต้องการนำเงินต่างประเทศออกจากประเทศนั้นๆ […]

คุณแม่บ้านต้องรู้ เก็บเงินจากสามียังไงให้งอกเงย

แลกเงิน

คุณแม่บ้านคนไหนได้เงินเดือนจากสามีเป็นรายได้หลักบ้าง? ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านแลกเงินต่างประเทศ 12 Victory สาขาเซ็นทรัลพลาซาโคราช หรือคุณแม่บ้านที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาหลายคนนั้นเป็นแม่บ้านชาวไทยที่สามีต่างชาติคอยส่งเงินเดือนให้ใช้จ่ายเป็นประจำทุกเดือน แน่นอนว่าหากเก็บเงินและบริหารเงินเหล่านั้นอย่างดีก็สามารถมีเงินก้อนเอาไปต่อยอดได้มากมายเลยทีเดียว นอกจากการเก็บเงินเป็นเงินฝากแล้ว ลองมาดูวิธีที่ช่วยให้รายได้ประจำของคุณแม่บ้านนั้นงอกเงย ออกดอกออกผลให้มีเงินใช้สบายๆ   1. แบ่งเก็บ แบ่งใช้ให้ชัดเจน แม้ว่าคุณแม่บ้านจะได้เงินจากสามีทุกเดือนแต่ก็ยังจำเป็นต้องบริหารเงินเพื่อให้มีเงินใช้อย่างสบายทั้งยังมีเงินเก็บอีกด้วย ดังนั้นควรแบ่งสัดส่วนเงินเป็นเงินเก็บ,เงินใช้จ่ายและเงินเผื่อฉุกเฉิน ทำแบบนี้ทุกเดือนก็จะทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นและกลายเป็นเงินที่งอกเงยได้ในที่สุด 2.เปลี่ยนรายได้ให้เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า เช่น หุ้น กองทุน นอกจากการเก็บเงินแล้วการใช้เงินทำงานเพื่อให้เงินงอกเงยเองก็เป็นอีกทางที่ใครหลายคนนิยมทำกัน เมื่อคุณแม่บ้านเก็บเงินแล้วควรหมั่นหาความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าเงินที่มีอยู่ให้มากขึ้น เช่น การเล่นหุ้น ตราสารหนี้หรือกองทุนต่างๆ โดยเลือกลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือ “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย” ในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน ถือเป็นการฝึกวินัยการออมเงินที่ทำให้เงินงอกเงยโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก 3.ลงทุนแบรนด์เนมอย่างรู้หลักการ อีกทางเลือกที่เชื่อว่าถูกใจคุณแม่บ้านหลายคนแน่นอน นั่นก็คือการลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมซึ่งหากคุณแม่บ้านที่ชอบใช้กระเป๋าแบรนด์เนมอยู่แล้ว ก็เป็นโอกาสดีเลยเพราะบางรุ่นเมื่อขายต่อก็ยังได้ราคาดีอยู่ แต่ปัจจุบันนี้ก็มีการลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมแบบจริงจังคือซื้อมาขายไป ซึ่งก็เป็นการลงทุนที่ต้องศึกษาข้อมูลเช่นกัน ทั้งเรื่องของแหล่งซื้อขาย ราคา รุ่นที่ได้รับความนิยม การดูแลรักษา รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะขาย แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่ทำให้เงินงอกเงยได้เช่นกัน ทั้ง 3 แนวทางการเก็บเงินที่เอามาแนะนำกันในวันนี้ก็เป็นแค่บางวิธีการ แต่หากคุณแม่บ้านลองไปทำตามด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเชื่อแน่ว่าจะช่วยทำให้เงินเก็บที่มีอยู่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และหากว่าคุณแม่บ้านคนใดอาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา (โคราช),บุรีรัมย์, ชัยภูมิ หรือจังหวัดใกล้เคียง แล้วได้เงินต่างประเทศจากสามีชาวต่างชาติต้องการแลกต่างประเทศเป็นเงินบาท […]