แม่บ้านสายประหยัด หาตั๋วเครื่องบินยังไงให้ได้ราคาถูก
1.ติดตามเพจโปรโมชั่น แม่บ้านคนไหนเป็นสายโซเชียล เชื่อว่าการหาโปรตั๋วเครื่องบินราคาดีๆ จากเพจรวมโปรไม่น่าจะใช่เรื่องยากอะไร เพราะปัจจุบันก็มีแฟนเพจรวมโปรโมชั่นสายการบินเยอะแยะอัพเดตข้อมูลกัน แต่เมื่อเป็นโปรดีๆ ก็อาจต้องอาศัยความไวกันสักหน่อย นอกจากนี้ยังมีเอเนซี่ที่รับจองตั๋วเครื่องบินและตั๋วอื่นๆ ที่จะนำเสนอตั๋วในราคาพิเศษให้ ก็เป็นอีกช่องทางที่ช่วยประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินได้นั่นเอง 2. ติดตามเพจสายการบิน อีกช่องทางนึงของการหาโปรโมชันตั๋วเครื่องบินราคาดีๆ ก็คือการติดตามแฟนเพจหรือช่องทางการติดต่อของสายการบินโดยตรง ซึ่งข้อดีก็คือคุณแม่บ้านสามารถเลือกสายการบินที่ชอบ ใช้งานเป็นประจำ เมื่อใช้เป็นประจำก็อาจมีส่วนลดตามมาด้วย และเมื่ออัพเดทข้อมูลโปรโมชันได้รวดเร็วกว่าก็มีสิทธิ์ได้ตั๋วเครื่องบินราคาดีนั่นเอง 3.สะสมไมล์ผ่านสายการบินโปรด นอกจากการติดตามแฟนเพจของสายการบินที่ชอบแล้ว อีกทางนึงที่จะช่วยให้คุณแม่บ้านได้ตั๋วเครื่องบินในราคาถูกกว่าราคาปกติ นั่นก็คือการเป็นสมาชิกเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบินนั้นๆ ที่มันจะมีการสะสมแต้มทุกครั้งที่บิน ยิ่งบินครั้งละหลายคนหรือจองตั๋วพร้อมออพชั่นต่างๆ ก็จะมีคะแนนสะสมสูงขึ้น คุณแม่บ้านสามารถนำคะแนนเหล่านี้มาเป็นส่วนลดในการจองตั๋วเครื่องบินครั้งต่อๆ ไปได้ 4. จองตั๋วล่วงหน้า อีกทางที่จะช่วยประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินให้คุณแม่บ้านที่อยากจะพาสามีชาวต่างชาติและครอบครัวเดินทางกลับมาพักผ่อนที่ประเทศไทย หรือเดินทางกลับประเทศนั่นก็คือการวางแผนการเดินทางและจองตั๋วเดินทางล่วงหน้า เพราะไม่ว่าจะเป็นสายการบิน Low Cost แต่หากจอวตั๋วใกล้วันเดินทางมาก ก็จะยิ่งได้ตั๋วที่ราคาสูงมากขึ้นไปอีก ดังนั้นการวางแผนและจองตั๋วไปตั้งแต่แรกจะช่วยให้ประหยัดค่าตั๋วเครื่องบินมากกว่านั่นเอง 5. เลือกวันเดินทางเป็นวันธรรมดา เพราะอัตราการเดินทางในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นั้นมีมากกว่าวันอื่นๆ จึงทำให้ราคาค่าตั๋วเครื่องบินใน 3 วันนี้ค่อนข้างสูง หากคุณแม่บ้านต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องตั๋วเครื่องบินจึงอาจจะต้องเลือกวันเดินทางเป็นวันธรรมดา กลางสัปดาห์ และอาจเลือกช่วงวลาที่คนไม่นิยม เช่น ช่วงเช้าตรู่หรือดึกมากๆ ก็จะช่วยให้ค่าตั๋วเครื่องบินถูกลงนั่นเอง 6. ถ้ามีเวลาต่อเครื่องเลย สำหรับคุณแม่บ้านและสามีชาวต่างชาติที่ไม่ได้มีความเร่งรีบที่จะเดินทางไปทำธุระ การต่อเครื่องก็เป็นอีกทางที่ช่วยให้ประหยัดค่าตั๋วเดินทางไปได้อีก […]
เกาหลีเกาใจ อยากไปทำงานต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง
หากเอ่ยถึงประเทศสาธารณรัฐเกาหลีหรือเกาหลีใต้ หลายคนคงนึกถึงซีรีส์สนุกๆ วิวสวยๆ อาหารอร่อยๆ แต่อีกหลายคนคงนึกถึงการไปทำงานที่ได้ค่าแรงคุ้มค่าเหนื่อยแบบสุดๆ จึงทำให้แรงงานจำนวนมากหาลู่ทางเพื่อไปทำงานที่เกาหลีใต้กัน ซึ่งการไปทำงานแบบถูกกฎหมายนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก ทั้งยังได้รับความสะดวกสบายมากกว่าและที่สำคัญที่สุดคือได้รับการคุ้มครองจากกรมการจัดหางาน ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนนายจ้างเอาเปรียบอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดก็ยังได้ค่าตอบแทนงามๆ เช่นกัน หากใครสนใจก็มีรายละเอียดให้ปฏิตามกันง่ายๆ มาเตรียมตัวไปพร้อมกันได้เลย 1. ตรวจสอบคุณสมบัติ หากแรงงานคนไทยคนไหนอยากไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้จะต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังต่อไปนี้ เพศชาย–หญิง อายุ 18-39 ปี ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา สายตาไม่บอดสี ร่างกายสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง และไม่เป็นโรคที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือเป็นโรคติดต่อตามที่ทางการเกาหลีกำหนด ได้แก่โรคดังต่อไปนี้ โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคซิฟิลิส วัณโรค โรคทางเดินหายใจอักเสบเฉียบพลันชนิดรุนแรง โรคไส้เลื่อน โรคนิ่วในไต โรคหัวใจ ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกทับเส้น โรคจิตวิปริต ไม่มีประวัติกระทำผิดทางอาญาหรือเป็นภัยต่อสังคมและความมั่นคง เป็นบุคคลซึ่งไม่มีประวัติการถูกเนรเทศ หรือเคยถูกปฏิเสธการเข้าสาธารณรัฐเกาหลี หรือกระทำผิดกฎหมายของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นบุคคลซึ่งไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกชนิด ไม่เคยพำนักอาศัยในสาธารณรัฐเกาหลีด้วยวีซ่า E-9 หรือ E-10 หรือ วีซ่า E-9 และ E-10 รวมกัน 5 ปี […]
เรื่องต้องรู้ ก่อนบินเดี่ยวหาเงินที่ไต้หวัน
หากคุณกำลังมีความคิดอยากไปใช้แรงงานอย่างถูกกฎหมายที่สาธารณรัฐจีนหรือ “ประเทศไต้หวัน” นอกจากการเตรียมตัวด้านเอกสารที่ถูกต้อง เตรียมร่างกายแล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมทำความรู้จักกับไต้หวันให้มากขึ้นเพื่อให้การไปทำงานที่ไต้หวันของคุณราบรื่นตลอดรอดฝั่ง ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ เรื่องแรกที่คุณควรรู้เมื่ออยากย้ายประเทศมาทำงานที่ไต้หวันนั่นก็คือสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเกาะไต้หวัน ซึ่งภูมิประเทศไต้หวันนั้นมีลักษณะเป็นเกาะทอดยาวจากเหนือสู่ใต้ ตั้งอยู่ในเขตภูเขาไฟและแผ่นดินไหว สำหรับภูมิอากาศของไต้หวันนั้นสภาพอากาศค่อนแปรปรวนเพราะเป็นเกาะในเขตร้อนแต่แดดไม่จัด ในหนึ่งวันอาจเจอสภาพอากาศที่หลากหลาย อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส ไต้หวันถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรแปซิฟิกทำให้มีอากาศแบบชื้น ช่วงฤดูใบผลิและหนาวอากาศแปรปรวนมาก อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ในช่วง 12-17 องศาเซลเซียส ค่าครองชีพ สำหรับค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแทบจะเรียกได้ว่าเท่าๆ กับค่าเงินไทย 1ดอลลาร์ไต้หวันจะอยู่ที่ราวๆ 1.20 บาท นั่นเอง ส่วนค่าครองชีพก็จะสูงกว่าไทยในหลายๆ อย่าง เช่นอาหารร้านทั่วไปก็จะอยู่ที่ราวๆ 60-70 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่หากเป็นอาหารในร้านสะดวกซื้อก็พอมีที่ราวๆ 30 – 50 ดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนเครื่องอุปโภคบริโภคก็จะแพงกว่าไทยเล็กน้อย แต่หากเป็นพวกรองเท้ากีฬาหรือของใช้บางอย่างก็อาจจะถูกกว่าราคาที่ไทย ส่วนอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วยความที่ไต้หวันมีพื้นที่เล็ก ทำให้ราคาที่ดิน อสังหาริมทรัพย์แพงมากเมือเทียบกับพื้นที่ที่ได้ เวลาเร็วกว่าไทย หากคุณได้ไปใช้ชีวิตทำงานที่ไต้หวันแล้วล่ะก็อย่าลืมเรื่องเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงนะ ข้อกำหนดเรื่องการทำงาน การทำงานในไต้หวันจะต้องมีสัญญาจ้างจะระบุค่าจ้างไว้ชัดเจน แต่อาจหักค่าที่พักและอาหารในบางกรณี และหากว่ารายได้ถึงเกณฑ์ ก็ต้องมีค่าประกันภัยแรงงาน ประกันสุขภาพและค่าตรวจสุขภาพ ภาษา หากได้เดินทางไปทำงานในไต้หวันแล้วคุณอาจจำเป็นต้องรู้ภาษาจีนกลาง (Mandarin) […]
เรื่องควรรู้เมื่อสาวไทยใช้ชีวิตที่ต่างแดน พกเงินได้กี่บาท
หากคุณแม่บ้านชาวไทยอาศัยอยู่กับสามีชาวต่างชาติที่ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อเมริกาหรือประเทศใดๆ ก็ตาม หากคุณแม่บ้านยังเป็นแค่ผู้ติดตามต้องมีพาสปอร์ตเสมอ จำเป็นต้องศึกษาเรื่องควรรู้เกี่ยวกับพาสปอร์ตไว้ด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดปัญหาใดๆ จะรีบหาทางออกได้ถูกต้อง รวมถึงเรื่องเงินต่างประเทศที่จำเป็นต้องทราบเมื่อเดินทางด้วย เดินทางกลับประเทศไทย หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต Passport) นั้นเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้เพื่อแสดงตัวตนของคุณแม่บ้าน ดังนั้นต้องคอยตรวจสอบไม่ให้หมดอายุ หากหมดอายุควรติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือ สถานกงสุลใหญ่ ในประเทศนั้นๆ เพื่อทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ หากคุณแม่บ้านเกิดทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต Passport) หายในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเดินทางเพื่อกลับประเทศไทย สามารถติดต่อขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ออกหนังสือสำคัญประจำตัว (Certificate of Identity- CI) ได้ เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยต้องนำสำเนาหนังสือเดินทางเล่มที่สูญหายมาพร้อมรูปถ่าย บัตรประชาชน และแบบฟอร์มมายื่นขอเอกสารล่วงหน้าก่อนเดินทาง และเมื่อท่านเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว จะต้องทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ด้วย อยากเปลี่ยนนามสกุลตามสามีต่างชาติต้องทำยังไง คุณแม่บ้านคนไทยที่อยากเปลี่ยนนามสกุลในพาสปอร์ตเพื่อใช้นามสกุลของสามีหลังแต่งงาน ต้องไปดำเนินการด้วยตนเองมที่เขตหรืออำเภอที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หากไม่สามารถไปด้วยตรเอง ต้องออกหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทนได้ พกเงินเข้าออกประเทศไทยได้เท่าไหร่? หากคุณแม่บ้านต้องการนำเงินบาทออกนอกประเทศไทย สามารถพกเงินสดได้สูงสุด 50,000 บาท แต่หากต้องการนำเงินสดมากกว่านั้นออกจากประเทศไทยจำเป็นต้องขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย และ นำหลักฐานการได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธต.5) มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศในขณะเดินทางออกนอกประเทศ กรณีที่ต้องการนำเงินต่างประเทศออกจากประเทศนั้นๆ […]
คุณแม่บ้านต้องรู้ เก็บเงินจากสามียังไงให้งอกเงย
คุณแม่บ้านคนไหนได้เงินเดือนจากสามีเป็นรายได้หลักบ้าง? ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านแลกเงินต่างประเทศ 12 Victory สาขาเซ็นทรัลพลาซาโคราช หรือคุณแม่บ้านที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาหลายคนนั้นเป็นแม่บ้านชาวไทยที่สามีต่างชาติคอยส่งเงินเดือนให้ใช้จ่ายเป็นประจำทุกเดือน แน่นอนว่าหากเก็บเงินและบริหารเงินเหล่านั้นอย่างดีก็สามารถมีเงินก้อนเอาไปต่อยอดได้มากมายเลยทีเดียว นอกจากการเก็บเงินเป็นเงินฝากแล้ว ลองมาดูวิธีที่ช่วยให้รายได้ประจำของคุณแม่บ้านนั้นงอกเงย ออกดอกออกผลให้มีเงินใช้สบายๆ 1. แบ่งเก็บ แบ่งใช้ให้ชัดเจน แม้ว่าคุณแม่บ้านจะได้เงินจากสามีทุกเดือนแต่ก็ยังจำเป็นต้องบริหารเงินเพื่อให้มีเงินใช้อย่างสบายทั้งยังมีเงินเก็บอีกด้วย ดังนั้นควรแบ่งสัดส่วนเงินเป็นเงินเก็บ,เงินใช้จ่ายและเงินเผื่อฉุกเฉิน ทำแบบนี้ทุกเดือนก็จะทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นและกลายเป็นเงินที่งอกเงยได้ในที่สุด 2.เปลี่ยนรายได้ให้เป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่า เช่น หุ้น กองทุน นอกจากการเก็บเงินแล้วการใช้เงินทำงานเพื่อให้เงินงอกเงยเองก็เป็นอีกทางที่ใครหลายคนนิยมทำกัน เมื่อคุณแม่บ้านเก็บเงินแล้วควรหมั่นหาความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าเงินที่มีอยู่ให้มากขึ้น เช่น การเล่นหุ้น ตราสารหนี้หรือกองทุนต่างๆ โดยเลือกลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือ “การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย” ในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน ถือเป็นการฝึกวินัยการออมเงินที่ทำให้เงินงอกเงยโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก 3.ลงทุนแบรนด์เนมอย่างรู้หลักการ อีกทางเลือกที่เชื่อว่าถูกใจคุณแม่บ้านหลายคนแน่นอน นั่นก็คือการลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมซึ่งหากคุณแม่บ้านที่ชอบใช้กระเป๋าแบรนด์เนมอยู่แล้ว ก็เป็นโอกาสดีเลยเพราะบางรุ่นเมื่อขายต่อก็ยังได้ราคาดีอยู่ แต่ปัจจุบันนี้ก็มีการลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมแบบจริงจังคือซื้อมาขายไป ซึ่งก็เป็นการลงทุนที่ต้องศึกษาข้อมูลเช่นกัน ทั้งเรื่องของแหล่งซื้อขาย ราคา รุ่นที่ได้รับความนิยม การดูแลรักษา รวมถึงระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะขาย แต่ก็ถือเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่ทำให้เงินงอกเงยได้เช่นกัน ทั้ง 3 แนวทางการเก็บเงินที่เอามาแนะนำกันในวันนี้ก็เป็นแค่บางวิธีการ แต่หากคุณแม่บ้านลองไปทำตามด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเชื่อแน่ว่าจะช่วยทำให้เงินเก็บที่มีอยู่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และหากว่าคุณแม่บ้านคนใดอาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา (โคราช),บุรีรัมย์, ชัยภูมิ หรือจังหวัดใกล้เคียง แล้วได้เงินต่างประเทศจากสามีชาวต่างชาติต้องการแลกต่างประเทศเป็นเงินบาท […]
อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ต้องมีงบเท่าไหร่
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เรียนจบปริญญาตรีแล้วแต่ยังไม่อยากทำงาน หรือทำงานมาได้สักพักแล้วรู้สึกว่าอยากเปิดประสบการณ์ชีวิตด้านใหม่ๆ การไปเรียนต่อต่างประเทศก็ดูจะเป็นความฝันหรือแผนในอนาคตของใครหลายคน ซึ่งนอกจากการเตรียมความพร้อมเรื่องการสอบ เอกสารต่างๆ ความพร้อมด้านทุนทรัพย์ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ หากเป็นไปได้ควรแลกเงินต่างประเทศเตรียมไว้ สำหรับคนที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ ลองมาดูกันดีกว่าว่าหากคุณอยากไปเรียนต่อในประเทศยอดฮิตเหล่านี้ต้องเตรียมงบประมาณด้านไหนบ้างเป็นเงินเท่าไหร่บ้าง 1.ประเทศอังกฤษ (สหราชอาราจักร) ประเทศยอดฮิตของคนไทยที่อยากโกอินเตอร์ ด้วยบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก มีสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้เพลิดเพลินมากมาย มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่และติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก อย่างมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยลอนดอน เป็นต้น ค่าวีซ่า : Student Visitor (Tier 4) ราคา 515 USD (ราวๆ 22,600 บาท) Bank Statement : ควรมีเงินคงบัญชีไว้พอสำหรับใช้จ่ายได้ประมาณ 9 เดือนขั้นต่ำประมาณ 527,000 บาท ค่าเทอมต่อปี : ปริญญาตรี : 405,800 – 1,045,700 บาท ปริญญาโท : 855,000 – 1,404,500 บาท […]
สามีต่างชาติเปย์หนักมาก ซื้อคอนโดเงินสดดีมั้ยนะ?
เชื่อว่าคุณแม่บ้านที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติหลายคนมีความคิดอยากจะซื้อคอนโดหรือบ้านสักหลังเป็นของตัวเองเพื่อเอาไว้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวเมื่อเดินทางกลับมาเปลี่ยนบรรยากาศที่ประเทศไทย ซึ่งหลายคนที่เก็บเงินจนมีเงินสดมากพออาจเคยมีไอเดียว่าจะซื้อคอนโดหรือบ้านด้วยเงินสด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของผู้ที่มีรายได้สูง อีกทั้งการซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดก็มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อสังเกตที่พึงระวังเช่นกัน ลองมาเปรียบเทียบข้อดีและข้อสังเกตไปพร้อมกัน ข้อดีของการซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสด 1.ไม่ต้องจัดเตรียมเอกสารให้วุ่นวาย เรื่องที่คุณแม่บ้านหลายคนรู้สึกเหนื่อยเวลาจะทำธุรกรรมใดๆ ก็แล้วแต่นั่นก็คือการจัดเตรียมเอกสารมากมาย ยิ่งหากมีสามีเป็นชาวต่างชาติ การจะซื้อบ้านสักหลังหนึ่งหรือคอนโดสักห้องก็มีเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมหลายรายการมากกว่าการที่มีสามีเป็นคนไทยด้วยกันแน่นอน แต่ถ้าคุณแม่บ้านมีเงินสดพร้อมซื้ออยู่แล้ว แค่มีบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านก็สามารถซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดได้เลย 2.ไม่ต้องรอลุ้นผลการขอสินเชื่อ ถ้าคุณแม่บ้านเลือกจะซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดก็จะสบายใจว่าไม่ต้องมานั่งลุ้นผลว่าจะยื่นกู้ขอสินเชื่อจากธนาคารผ่านหรือไม่ แค่เพียงคุณมีเงินสดมากพอก็จบปัญหานี้ได้เลย 3.ไม่ต้องมีภาระเรื่องดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากเรื่องเอกสารและการขอสินเชื่อแล้ว หากคุณแม่บ้านต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดล่ะก็ ก็ต้องตระเตรียมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าจอง ค่าโอน ค่าจดจำนอง และอีกสารพัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และหลังจากเริ่มผ่อนบ้านหรือคอนโดไปเรื่อยๆ ก็จะต้องแบกรับดอกเบี้ยที่ตามมาด้วย แต่หากคุณแม่บ้านมีเงินสดพร้อมซื้อก็จะลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ 4.เป็นเจ้าของบ้านได้ทันที อีกหนึ่งข้อดีที่คุณแม่บ้านน่าจะฟินมากหากซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดก็คือ คุณแม่บ้านจะเป็นเจ้าของบ้านหรือคอนโดนั้นๆ และโฉนดได้ในทันทีไม่ต้องรอเวลา ให้คุณแม่บ้านอุ่นใจได้ในเวลารวดเร็ว ข้อสังเกตหากต้องซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสด 1.ใช้เวลาในการเก็บเงินนาน แม้ว่าคุณแม่บ้านบางคนจะได้รับเงินเดือนจากคุณสามีต่างชาติอยู่ทุกเดือนและอาจเป็นจำนวนหนึ่ง ทว่าหากจะต้องซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดก็อาจต้องใช้เวลาในการเก็บเงินนานพอสมควร 2.ไม่เหลือเงินสำรอง นอกจากต้องใช้เวลาเก็บเงินนานแล้ว หากคุณแม่บ้านเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดก็อาจจะทำให้ไม่เหลือเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือมีเงินสำรองน้อยกว่าที่ควรมี อีกทั้งอาจทำให้ต้องสูญเสียเงินที่จะใช้ลงทุนต่อยอดอีกด้วย 3.ลดหย่อนภาษีไม่ได้ เนื่องจากการซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดนั้นไม่มีดอกเบี้ยดังนั้นจะไม่สามารถหักลดภาษีจากกการกู้ธนาคารได้ 4.เสี่ยงโดนตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่โครงการจำเป็นต้องส่งเรื่องไปตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินด้วย ซึ่งอาจจะต้องเสียเวลาในการรอตรวจสอบนั่นเอง ไม่ว่าคุณแม่บ้านจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดหรือการผ่อนก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ใช้วิจารณญาณแล้ว ซึ่งหากมีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าบ้านหรือคอนโดได้ครอบคลุมทั้งหมดการซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดก็เป็นทางเลือกที่ดี สะดวก และได้เป็นเจ้าของอย่างรวดเร็ว แต่หากคุณแม่บ้านต้องการใช้เงินจำนวนไม่มากหรือต้องการใช้เงินไทยแบบเร่งด่วน และเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา (โคราช), […]
เรื่องต้องรู้ของเขยต่างชาติที่อยากกู้ซื้อคอนโด
เขยต่างชาติ ชาวต่างชาติที่มีภรรยาเป็นคนไทยกำลังวางแผนจะซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะซื้อเพื่อปล่อยเช่าหรือเอาไว้อยู่เอง นอกจากการเตรียมเงินและเอกสารต่างๆ ทั้งของคุณแม่บ้านและตัวเขยต่างชาติเองแล้ว ยังมีรายละเอียดที่ชาวต่างชาติต้องรู้ไว้ด้วย เรื่องเอกสารต่างๆ ที่ต้องเตรียม สามารถอ่านได้จากบทความของเราก่อนหน้านี้ เขยต่างชาติอยากซื้อคอนโด ต้องเตรียมตัวยังไง ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เขยต่างชาติต้องรู้ก่อนจะมีคอนโดเป็นของตัวเองสักห้องมีดังต่อไปนี้ 1.รู้เรื่องอัตราส่วนการถือครองคอนโดของชาวต่างชาติ (FOREIGNER QUOTA) หากคุณเขยต่างชาติรู้สึกถูกใจคอนโดโครงการไหนก็ตาม ต้องรีบเตรียมตัวและรีบตัดสินใจซื้อเลย ก็เพราะว่าตามพรบ.อาคารชุดแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 พ.ศ.2551 อนุญาตอัตราส่วนกรรมสิทธิ์ต่างชาติสูงสุด 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดของโครงการนั้นๆ นั่นหมายความว่าหากคอนโดโครงการที่เขยต่างชาติเล็งอยู่มีทั้งหมด 100 ห้อง มีเพียง 49 ห้องเท่านั้นที่คุณจะเป็นเจ้าของได้ ดังนั้นหากมีชาวต่างชาติคนอื่นสนใจคอนโดโครงการเดียวกับคุณเป็นจำนวนมากก็มีสิทธิ์ที่คุณจะชวดคอนโดโครงการนี้ได้ 2.รู้ว่าต้องชำระเงินผ่านระบบ Telegraphic Transfer (T/T) เขยต่างชาติจำเป็นต้องรู้ว่าการชำระเงินเมื่อซื้อขายคอนโดนั้นต้องโอนแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศจากบัญชีธนาคารต่างประเทศที่เรียกว่า “Telegraphic Transfer (T/T)” หรือ “Swift Code” เข้ามาที่บัญชีในประเทศไทยโดยไม่มีข้อยกเว้น จากนั้นค่อยโอนเงินต่างประเทศนั้นๆ แลกเปลี่ยนเงินตราเป็นสกุล “บาท” โดยธนาคารสัญชาติไทยอีกครั้ง โดยต้องระบุวัตถุประสงค์ในการโอนเงินให้ชัดเจน รวมถึงระบุว่าซื้อคอนโดมิเนียม ชื่อโครงการ ชื่อห้องชุด ซื้อโดยใคร ให้ระบุชื่อผู้ซื้อให้ชัดเจนด้วย สำหรับข้อกำหนดเรื่องการโอนเงินนี้ไม่มีการยกเว้น […]
อยากไปทำงานต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ต้องมีความฝันหรือวางแผนว่าอยากไปทำอย่างถูกกฎหมายที่ต่างประเทศดูบ้าง ในปัจจุบันมีประเทศมากมายในโลกที่ต้องการแรงงานจำนวนมากไปช่วยเพิ่มฐานการผลิตในอุตสาหกรรมหรือวงการต่างๆ ที่ยังขาดแคลน ก่อนจะตัดสินใจเลือกว่าจะไปเป็นแรงงานที่ประเทศไหนดี ควรมีข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย รู้ว่าประเทศที่อยากไปขาดแคลนแรงงานด้านไหน หากคุณมีเป้าหมายประเทศที่อยากไปชัดเจนแล้ว คุณควรหาข้อมูลว่าประเทศนั้นๆ ที่คุณต้องการไปขาดแคลนแรงงานด้านไหนบ้าง แล้วนำมาไล่ดูว่ามีงานด้านไหนที่คุณทำได้ หรืออาจดูว่าความสามารถของคุณตรงกับแรงงานของประเทศไหน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการทำงานด้านนั้นๆ อย่างเช่นประเทศเกาหลีใต้ก็ยังเป็นประเทศที่ขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างอุตสาหกรรมต่อเรือก็เพิ่งประกาศหาแรงงานจำนวนมากเพื่อเข้าไปทำงานในหลายๆ ตำแหน่ง เช่น ช่างเชื่อม,ช่างทาสี, ช่างไฟฟ้า เป็นต้น หรืออย่างไต้หวันก็เป็นอีกประเทศที่มีความต้องการแรงงานไทยและแรงงานประเทศอื่นๆ เข้าไปทำงาน โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่าขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก ดังนี้ ภาคการผลิต 15,941 ราย ภาคก่อสร้าง 4,099 ราย ภาคเกษตร 83 ราย และผู้อนุบาล 67 ราย เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว คุณที่อยากไปทำงานต่างประเทศก็จะได้รู้ว่าตัวเองควรไปอยู่ประเทศไหนหรือเลือกงานไหน ประเภทของวีซ่าที่ประเทศนั้นๆ ต้องใช้ แต่ละประเทศจะมีวีซ่าหลากหลายประเภทที่มีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่สนใจอยากทำงานต่างประเทศ ต้องรู้ว่าวีซ่าไหนในประเทศอะไรที่อนุญาตให้ทำงานได้หรือมีรายละเอียดปลีกย่อยของวีซ่าอยย่างไรบ้าง ซึ่งวีซ่าทำงานในบางประเทศสามารถต่อยอดเป็น PR (Permanent Residence) หรือการเป็นพลเมืองถาวรได้ ควรศึกษาข้อมูลตรงนี้ให้ดีด้วย เอกสารที่ต้องใช้ นอกจากวีซ่าและพาสปอร์ตแล้ว การไปทำงานต่างประเทศนั้นยังมีเอกสารหลายๆ อย่างที่แต่ละประเทศกำหนดไว้แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อคุณตัดสินใจเลือกจะไปทำงานที่ประเทศใดแล้ว ควรศึกษาเอกสารที่ต้องเตรียมและจัดเตรียมให้พร้อม […]
เขยต่างชาติอยากซื้อคอนโด ต้องเตรียมตัวยังไง
คุณแม่บ้านที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติที่กำลังมีไอเดียว่าอยากจะซื้อคอนโดโดยให้สามีเป็นผู้กู้หลัก แต่ยังงงๆ ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้จะชวนคุณแม่บ้านมาทำความเข้าใจถึงสิทธิ์ที่สามีชาวต่างชาติสามารถทำได้เมื่อต้องการซื้อคอนโดหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ในประเทศไทยบอกเลยว่าไม่ยากแค่เตรียมตัวให้พร้อมก็พอ เขยต่างชาติที่จดทะเบียนสมรสกับภรรยาชาวไทยมีสิทธิ์เป็นผู้กู้หลักเพื่อซื้อคอนโด หากคุณแม่บ้านและสามีชาวต่างชาติมีความคิดจะซื้อคอนโดล่ะก็ ในกรณีที่จดทะเบียนสมรสกันแล้วสามารถให้สามีชาวต่างชาติเป็นผู้กู้หลักได้เลย แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของธนาคารและสถาบันการเงินที่มีเงื่อนไขของแต่ละแห่งแตกต่างกันไป ในการกู้เงินซื้อคอนโดนนั้นนอกจากเป็นผู้กู้หลักแล้ว เขยต่างชาติยังสามารถมีสถานะเป็นผู้กู้ร่วมและผู้ค้ำประกันหลักของภรรยาชาวไทยได้ด้วย ทำยังไงถ้าให้แม่บ้านชาวไทยเป็นผู้กู้หลักแต่รายได้ไม่เพียงพอ หากคุณแม่บ้านต้องการเป็นผู้กู้หลักในการกู้ซื้อคอนโดแต่เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่เพียงต่อที่จะยื่นกู้ สามารถเตรียมตัวได้ก่อนจะเริ่มกู้โดยการให้สามีชาวต่างชาติโอนเงินเข้าบัญชีของคุณแม่บ้านชาวไทยให้เกิดรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสอบถามวิธีการที่ละเอียดได้จากสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ต้องการกู้นั่นเอง เขยต่างชาติที่จดทะเบียนสมรสกับภรรยาชาวไทยมีสิทธิ์ซื้ออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ได้ คุณแม่บ้านต้องทราบว่าเขยต่างชาติจะมีสิทธิ์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ทุกอย่าง ไม่ใช่เพียงคอนโดเท่านั้นแต่ต้องมีเงื่อนไขว่าสามีของคุณจะต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณแล้วเท่านั้น หากว่าเขยต่างชาติจดทะเบียนสมรสกับหญิงชาวไทยแล้ว จะมีสิทธิ์ซื้อบ้าน ทาวน์เฮาส์ รวมถึงที่ดินได้ด้วย โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าคุณแม่บ้านจะต้องเป็นผู้กู้หลัก และสามีต่างชาตผู้กู้ร่วมหรือผู้ค้ำประกันเท่านั้น เอกสารที่เขยต่างชาติต้องใช้เพื่อกู้ซื้อคอนโด 1. เอกสารประจำตัวของเขยต่างชาติ หนังสือเดินทาง (Passport) ใบอนุญาตเข้าประเทศไทย (Visa) ใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย (Work Permit) ทะเบียนสมรสด้วย 2. เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน หนังสือรับรองเงินเดือน หนังสือแสดงการจ่ายเงินเดือน (Payment Slip) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อแสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง หนังสือแสดงภาษีเงินได้ประจำปี หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 3.เอกสารแสดงรายละเอียดหลักทรัพย์ เป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อ ในกรณีนี้คือ คอนโดมิเนียม ดังนี้ หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช. 2) […]